ครบจบที่เดียว! สรุปทุกประเด็นเกี่ยวกับวิธีการกำจัดขนทุกรูปแบบ

สรุปครบทุกวิธีการกำจัดขน - กังนัมคลินิก

ใครว่า ‘ปัญหาเส้นขน’ ไม่ใช่เรื่องใหญ่?

รู้หรือไม่? ปัญหาขนตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายไม่ได้เป็นตัวบั่นทอนความมั่นใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การปล่อยขนให้ยาวเป็นเวลานาน ๆ ยังสามารถสร้างปัญหาผิวหนัง ตลอดจนเส้นขนยังเป็นตัวหมักหมมให้เกิดความชื้น ซึ่งเป็นที่มาของปัญหากลิ่นอับและแบคทีเรียในหลาย ๆ บริเวณของร่างกาย จนอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้โดยไม่รู้ตัว

แต่สำหรับใครที่ยังมีคำถามคาใจว่าจะกำจัดขนแบบไหนดีถึงเหมาะกับผิวหนังเรา หรือยังไม่รู้ว่าแต่ละวิธีกำจัดขนแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ออนนี่จะพาทุกคนไปรู้ทุกรายละเอียด พร้อมเปรียบเทียบถึงความแตกต่างของวิธีกำจัดเส้นขนในแต่ละประเภท นอกจากนี้ยังจะมาบอกถึงเคล็ดลับการกำจัดขนอย่างถูกวิธีให้ได้รู้กันด้วย บอกเลยงานนี้กู้คืนความมั่นใจ และลดปัญหาผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาวได้เลย

วิธีที่ 1 : โกนขน

การกำจัดขนด้วยวิธีการโกน ถือว่าเป็นวิธีที่ถูกอกถูกใจหนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคน เพราะนอกจากจะใช้อุปกรณ์น้อย ยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก การโกนขนยังเป็นวิธีกำจัดขนที่สะดวก สามารถกำจัดเส้นขนเป็นวงกว้างได้โดยใช้เวลาไม่นานอีกด้วย

วิธีการโกนขนที่ถูกต้อง

การโกนขนที่ถูกต้องนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการตั้งมีดโกนตามแนวขน จากนั้นจึงค่อย ๆ ปาดมีดลงมา ข้อควรระวังคืออย่าปาดแรงจนเกินไป เพราะจะทำให้ชั้นผิวหนังระคายเคือง หรือทำให้เกิดแผลได้ และที่สำคัญ อย่าลืมล้างทำความสะอาดบริเวณที่จะโกนให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียเข้าไปฝังตัวอยู่ในบริเวณที่โกน โดยทริคง่าย ๆ สำหรับการกำจัดขนด้วยวิธีการโกนก็คือ ควรทำให้ผิวบริเวณนั้น ๆ หมาดสักเล็กน้อย เพื่อทำให้เส้นขนอ่อนตัว และช่วยให้โกนขนได้ง่ายขึ้น หรือหากเป็นบริเวณที่มีความบอบบางมาก ๆ อย่างจุดซ่อนเร้น ก็ควรใช้ครีมโกนขนควบคู่กันไปเพื่อป้องกันการระคายเคือง โดยวิธีการโกนขนที่ถูกต้องนี้สามารถปรับใช้ได้ทั้งแบบมีดโกนธรรมดา และแบบมีดโกนไฟฟ้า

ข้อควรระวังในการโกนขน

จริงอยู่ว่าการโกนขนเป็นวิธีกำจัดขนที่สะดวกและรวดเร็ว แต่หลังจากการโกนแล้ว ขนก็จะเกิดขึ้นใหม่ได้ไวกว่าวิธีอื่น ๆ ซึ่งขนอาจขึ้นใหม่หลังโกนได้ 1 – 3 วัน นอกจากนี้ หากโกนผิดวิธี หรือเลือกใช้มีดโกนที่ไม่สะอาดก็สามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดการระคายเคือง ตลอดจนปัญหาผิวหนังอย่างหนังไก่ และขนคุดได้

วิธีที่ 2 : ถอนขน

การกำจัดขนด้วยการถอนไม่เพียงแต่จะช่วยกำจัดเส้นขนจนลึกถึงรากขนเท่านั้น แต่การถอนขนยังสามารถทำได้ง่าย ๆ ตั้งแต่ใช้มือดึงขนเส้นยาว ๆ ไปจนถึงการใช้แหนบถอนขนเส้นสั้น ๆ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่น้อย สามารถทำได้บ่อย และยังเหมาะสำหรับการกำจัดขนบริเวณทั่วไป รวมถึงบริเวณจุดซ่อนเร้น ตลอดจนบริเวณที่บอบบางอย่างใบหน้าได้อีกด้วย

วิธีการถอนขนที่ถูกต้อง

นอกจากเตรียมแหนบแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะช่วยทำให้การถอนขนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นก็คือ การใช้แหนบดึงขนบริเวณที่โคนขึ้นมาเพื่อป้องกันขนขาดระหว่างถอน และเพื่อช่วยให้สามารถกำจัดเส้นขนได้ถึงรากถึงโคนมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ก่อนที่จะเริ่มลงมือทุกครั้ง ออนนี่แนะนำว่าอย่าลืมล้างแหนบให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังถอนขนด้วยนะคะ

ข้อควรระวังในการถอนขน

แน่นอนว่าการถอนขนถือเป็นวิธีกำจัดขนสามัญประจำบ้านที่ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่อย่างไรก็ดี การถอนขนบ่อยมากจนเกินไป หรือถอนขนไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้เกิดปัญหาขนคุด และหนังไก่ตามมาได้ อีกทั้งหากปล่อยให้ขนยาว และค่อยมาถอนทีหลังก็อาจเกิดรอยบวมแดง หรืออาการปวดเล็กน้อยร่วมด้วยได้

วิธีที่ 3 : ครีมกำจัดขน

สำหรับใครที่ไม่ชอบความเจ็บปวด การใช้ครีมกำจัดขนก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่ช่วยให้บอกลาเส้นขนได้เช่นกัน โดยครีมกำจัดเส้นขนนั้นจะเข้าไปทำให้โปรตีนของเส้นขนอ่อนลงจนยุ่ย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเห็นผลกับผู้ที่มีขนเส้นบาง หรือมีขนน้อย แต่หากเป็นผู้ที่มีเส้นขนหนาก็อาจต้องใช้ครีมกำจัดเส้นขนหลายครั้งจนกว่าจะเห็นผล

วิธีการใช้ครีมกำจัดขนที่ถูกต้อง

แต่ถึงครีมกำจัดเส้นขนจะสะดวก และรวดเร็วมากแค่ไหนก็ไม่ได้แปลว่าเราจะสามารถใช้ครีมกำจัดเส้นขนกับบริเวณไหนก็ได้บนร่างกาย เพราะแท้จริงแล้ว ครีมในแต่ละแบรนด์นั้นมีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหากยิ่งเป็นบริเวณที่มีความบอบบางอย่างจุดซ่อนเร้น หรือใบหน้า ก็ควรเลือกครีมที่ระบุให้ใช้เฉพาะส่วนเพื่อป้องกันปัญหาการระคายเคือง ซึ่งหากเลือกใช้ครีมอย่างถูกวิธี เราก็จะสามารถเช็ดเส้นขนยังบริเวณต่าง ๆ ออกได้โดยไม่เจ็บ อีกทั้งการใช้ครีมกำจัดเส้นขนยังสามารถให้ผลลัพธ์นานถึง 2 สัปดาห์เลยทีเดียว

ข้อควรระวังของครีมกำจัดขน

นอกจากอาการคันแล้ว อาการแสบร้อน ตลอดจนรอยไหม้ และตุ่มใสที่บริเวณผิวหนังก็เป็นอีกหนึ่งอาการแพ้ที่สามารถพบเจอได้จากการใช้ครีมกำจัดขน ดังนั้น เพื่อเป็นการเช็กให้ชัวร์ที่สุด อย่าลืมศึกษาส่วนผสมของครีมกำจัดเส้นขนให้ดี หรือลองนำตัวครีมตัวนั้น ๆ มาทดสอบบนผิวหนังทุกครั้งก่อนใช้ครีมกำจัดขน เพื่อป้องกันการระคายเคือง และอาการแพ้รุนแรงที่อาจเกิดขึ้น

แวกซ์กำจัดขนอย่างไรให้ถูกต้อง - กังนัมคลินิก

วิธีที่ 4 : แวกซ์

สำหรับหลาย ๆ คนแล้ว การแวกซ์ขนอาจทำให้ต้องเสียน้ำตามากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ดี การแวกซ์ขนยังถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการกำจัดขนยอดฮิต ที่ใครต่อใครก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘เจ็บแต่จบ ดึงขนหมดได้ในทีเดียว’

วิธีแวกซ์ขนที่ถูกต้อง

นอกจากจะเลือกแวกซ์ ขี้ผึ้ง หรือสารเหนียวที่จะนำมาติดผิวหนังให้เหมาะกับผิว ที่จะไม่ก่อให้เกิดการระคายเรืองแล้ว การแวกซ์ที่ถูกต้องยังต้องคำนึงถึงแนวการดึงแวกซ์อีกด้วย ซึ่งหากใครอยากให้ขนออกหมดในการแวกซ์รอบเดียว และไม่มีปัญหาขนคุด หรือหนังไก่ตามมา ออนนี่แนะนำว่าให้ดึงแวกซ์ขึ้นสวนทางกับเส้นขน และพยายามดึงให้เร็ว เพื่อทำให้ขนที่ติดอยู่กับสารเหนียวออกมาได้มากที่สุด จากนั้นเมื่อขนออกหมดแล้วให้นำผ้าเย็นมาประคบ หรือหาว่านหางจระเข้มาทาเพื่อลดอาการบวมแดงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหากใครทำอย่างถูกต้องก็เตรียมบอกลาขนได้นานกว่า 6 สัปดาห์เลยทีเดียว

ข้อควรระวังในการแวกซ์

จริงอยู่ว่าการแวกซ์ช่วยให้กำจัดขนได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะแวกซ์ได้ทุกครั้งที่มีขนขึ้น โดยหากใครต้องการแวกซ์ขนใหม่นั้น ต้องรอให้ขนยาว 6 มิลลิเมตรขึ้นไปเพื่อป้องกันการระคายเคืองบนผิวหนัง อีกทั้งการแวกซ์ยังไม่เหมาะกับผิวที่ไหม้และยังไม่หายดี ตลอดจนผิวที่เพิ่งผ่านการรักษามาก็ไม่สามารถแวกซ์ได้เช่นกัน นอกจากนี้ การใช้แวกซ์ร้อนอาจทำให้ผิวหนังพุพองจากความร้อนของแวกซ์ ดังนั้น ก่อนใช้ทุกครั้ง อย่าลืมทำให้แวกซ์อยู่ในอุณหภูมิที่พอดีก่อนใช้ด้วยนะ

 

วิธีที่ 5 : เลเซอร์กำจัดขน

แต่สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีกำจัดขนที่เห็นผลไว ได้ผลลัพธ์นาน อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด บอกเลยว่าการทำเลเซอร์กำจัดขนนั้นถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรเก็บไว้พิจารณาให้ดี ซึ่งการกำจัดเส้นขนด้วยวิธีนี้นั้น แพทย์จะใช้แสงเลเซอร์ความถี่ต่าง ๆ ยิงเข้าไปที่ผิวหนังเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขน และทำลายเส้นขนในท้ายที่สุด

วิธีการเลเซอร์ที่ถูกต้อง

การทำเลเซอร์ขนกำจัดขนนั้น จำเป็นที่จะต้องให้แพทย์และผู้เชี่ยวชาญคอยกำกับดูแล ซึ่ง ณ ขณะนี้ เลเซอร์ที่ใช้กำจัดเส้นขนนั้นมีด้วยกันหลากหลายแบรนด์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็ผลิตเลเซอร์ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป อีกทั้งแต่ละคลินิกก็มีวิธีดูแล และแนวทางปฏิบัติที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว การเลเซอร์ขนจนจบคอร์สนั้นสามารถกำจัดขนได้นานกว่า 6 เดือน – 1 ปีครึ่งเลยทีเดียว

ข้อควรระวังของการใช้เลเซอร์กำจัดขน

การเลเซอร์อาจทำให้เกิดรอยแดง และการอักเสบของผิวหนังหลังทำได้ แต่หากดูแล และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อาการระคายเคืองต่าง ๆ ก็จะหายไปในเวลาไม่นาน อีกทั้งผู้เข้ารับการทำเลเซอร์ยังต้องหลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดเพื่อป้องกันอาการไม่พึงประสงค์อีกด้วย

จบลงไปแล้วสำหรับการสรุปวิธีกำจัดขนทุกรูปแบบที่นำมาฝากในวันนี้ ออนนี่หวังว่าวิธีและเคล็ดลับที่นำมาฝาก จะช่วยให้ทุกคนสามารถนำไปใช้เพื่อกำจัดเส้นขนได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยกับผิวหนังกันนะคะ

แต่ถ้าหากใครที่กำลังมองหาวิธีการกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์อยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกเลเซอร์กำจัดขนตัวไหนให้ตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด ตอนนี้ที่กังนัมคลินิกมีโปรโมชันพิเศษสำหรับกำจัดเส้นขนโดยเฉพาะ แถมยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเรื่องการเลือกเลเซอร์ที่ถูกต้อง รู้แบบนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม รีบติดต่อเข้ามาคุยกับคุณหมอและออนนี่ที่กังนัมคลินิกได้เลยที่เบอร์ 090-665-3616 หรือจะแอดไลน์มาคุยกับคุณหมอโดยตรงได้ที่ @gangnamclinic (มี @ ด้วยนะ)

Leave a Reply