จัดการปัญหารอยย่นใต้ตาได้จบครบ ด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา

จัดการปัญหารอยย่นใต้ตาได้จบครบ ด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา

ออนนี่เข้าใจดีว่าปัญหาริ้วรอยใต้ตาเป็นปัญหาที่สาว ๆ หลายคนพยายามหลีกเลี่ยงกันมากที่สุด เพราะเป็นจุดที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส ดูมีอายุก่อนวัย แถมยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ทุกครั้งที่แต่งหน้าต้องกังวลกับเครื่องสำอางที่ตกร่องและเป็นคราบจนดูไม่น่ามองอีกด้วย

ซึ่งปัญหาริ้วรอยนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สัญญาณบ่งบอกอายุที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่หลายคนที่เผชิญกับปัญหารอยย่นรอบดวงตาก็อาจเกิดได้จากหลากหลายพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ที่เราเผลอทำเป็นประจำจนทำให้ริ้วรอยถามหา แต่แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้มีวิธีที่จะช่วยดูแลให้ใต้ตาของเราดูอิ่มฟูแบบรวดเร็วทันใจ นั่นก็คือการทำฟิลเลอร์ใต้ตา เคล็ดลับดี ๆ ที่จะทำให้สาว ๆ มีใบหน้าที่ดูสดใส จบปัญหาริ้วรอยก่อนวัย แต่งหน้าเมื่อไหร่ก็ดูสวยเป๊ะ 

สาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา

• อายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจน

อย่างที่เรารู้กันดีว่า เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายก็จะมีการผลิตคอลลาเจนน้อยลง ส่งผลให้ผิวหนังขาดความกระชับ ดูหย่อยคล้อย และยังเป็นสาเหตุของริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย โดยเฉพาะริ้วรอยรอบดวงตาซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถเห็นได้ชัดเจนที่สุด แต่ออนนี่ขอกระซิบว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยการฉีดฟิลเลอร์นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ร่องแก้มหรือฟิลเลอร์ใต้ตา ก็สามารถช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและอิ่มฟูขึ้นได้โดยทันที

• แสงแดดและมลภาวะที่ทำร้ายผิว

รังสียูวีจากแสงแดดนั้นถือเป็นศัตรูตัวร้ายของผิว นอกจากจะทำให้ผิวดูหมองคล้ำแล้วยังเป็นตัวการที่ทำให้ผิวดูเหี่ยวย่น ดูมีอายุก่อนวัย นานวันไปก็จะกลายเป็นริ้วรอยฝังลึก นอกจากนี้ มลภาวะที่เราต้องเผชิญอยู่ในทุกวันก็ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ใบหน้าของเราดูอ่อนล้า ขาดความสดใส หากไม่รีบบำรุงผิวก็อาจทำให้ผิวเสียสะสมจนยากที่จะแก้ไข

• ผิวขาดความชุ่มชื้นจนเกิดรอยเหี่ยวย่น

สำหรับใครที่มีปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ อาจเผชิญกับปัญหาริ้วรอยได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น เพราะผิวที่ขาดความชุ่มชื้นจนแห้งกร้านนั้นเป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ทั้งบริเวณรอบดวงตา มุมปาก และร่องแก้ม จะต้องดูแลด้วยการหมั่นใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณสมบัติเติมเต็มความชุ่มชื้นเป็นประจำ เพื่อสร้างสมดุลและเติมน้ำให้กับผิว 

• พักผ่อนไม่เพียงพอ

สาว ๆ คนไหนที่ชอบนอนดึกเป็นประจำ สังเกตไหมว่าพอส่องกระจกทีไรก็รู้สึกว่าใบหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แถมยังมีริ้วรอยปรากฏบริเวณรอบดวงตาจนทำให้หน้าดูอ่อนล้าไม่มีชีวิตชีวาอีกด้วย เพราะในขณะที่เรานอนหลับนั้นร่างกายจะหลั่ง Growth Hormone ที่ทำหน้าที่ซ่อมแซมเซลล์ผิวและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ แต่หากเราไม่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ร่างกายก็จะไม่ได้รับการฟื้นฟู ส่งผลให้ผิวเสียและทำให้ใบหน้าดูมีอายุก่อนวัย

• ขยี้ตาบ่อย ๆ หรือเช็ดเครื่องสำอางด้วยความรุนแรง

สำหรับสาว ๆ ที่รักการแต่งหน้า แต่มักจะเผลอเช็ดเครื่องสำอางด้วยความรุนแรงเป็นประจำ หากไม่อยากให้ใบหน้าเหี่ยวก่อนวัย ออนนี่อยากให้เปลี่ยนพฤติกรรมโดยทันที เพราะการออกแรงเช็ดถูเครื่องสำอางด้วยความรุนแรง หรือขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้ผิวรอบดวงตาถูกทำร้ายอย่างหนักและทำให้ริ้วรอยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 

ริ้วรอยรอบดวงตา ดูแลได้ด้วยวิธีใดบ้าง

ริ้วรอยรอบดวงตา ดูแลได้ด้วยวิธีใดบ้าง

1. ดูแลด้วยสูตรมาส์กใต้ตาแบบธรรมชาติ

• สูตรแตงกวาและมันฝรั่ง

แตงกวาและมันฝรั่งนั้นเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็น จึงช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูกระชับและลดเลือนความหมองคล้ำได้เป็นอย่างดี เพียงแค่นำแตงกวาและมันฝรั่งมาปอกเปลือกและคั้นจนเหลือแต่น้ำ แล้วนำสำลีมาชุบ จากนั้นจึงมาส์กทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

• สูตรมะเขือเทศและน้ำผึ้ง

มะเขือเทศและน้ำผึ้งช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูสดใสและทำให้ผิวอ่อนนุ่ม โดยนำมะเขือเทศมาบดจนเป็นเนื้อละเอียดแล้วผสมด้วยน้ำผึ้ง คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นมาส์กทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

2. หมั่นทาอายครีม

ในตอนกลางคืนหลังจากทำความสะอาดผิวและลงครีมหรือเซรั่มที่ใช้เป็นประจำแล้ว ให้เพิ่มขั้นตอนการบำรุงด้วยอายครีมโดยใช้ครีมปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว นวดวนอย่างช้า ๆ และเบามือ ตั้งแต่บริเวณหัวตาไปยังหางตา เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา

3. ใช้ครีมกันแดดและครีมบำรุงผิวเพิ่มความชุ่มชื้น

เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดและป้องกันไม่ให้ผิวมีริ้วรอยก่อนวัย จึงควรหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำแม้ในวันที่ไม่ได้ออกจากบ้าน และควรใช้ครีมบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบใด จะผิวแห้งหรือผิวมันก็สามารถเติมน้ำให้ผิวได้ทั้งนั้น เพื่อช่วยให้ผิวสุขภาพดีในระยะยาว

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ใต้ตาที่เหี่ยวย่นกลับมาสดใส เพราะเมื่อเราได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มในเวลาที่เหมาะสมทุกวัน จะรู้สึกได้เลยว่าใบหน้าดูกระจ่างใส สุขภาพดี และใต้ตาจะไม่ดูโทรมอีกต่อไป

5. ดื่มน้ำและรับประทานอาหารที่ดีต่อผิว

การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน และรับประทานอาหารที่ดีต่อผิวอย่างผักและผลไม้ รวมถึงธัญพืชต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิว ทำให้ผิวดูกระชับ แข็งแรง ผิวหน้าโดยรวมดูสดใส และยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

6. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวรอบดวงตา

งดการขยี้ตาอย่างรุนแรงและเช็ดเครื่องสำอางอย่างเบามือ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการทำความสะอาดเครื่องสำอางบริเวณดวงตาโดยเฉพาะ จะเป็นการถนอมผิวรอบดวงตาได้ดีที่สุด

7. Filler ใต้ตา ช่วยเติมเต็มร่องลึกแบบเร็วทันใจ ไม่ต้องผ่าตัด 

นอกจากวิธีต่าง ๆ ที่ออนนี่แนะนำไปแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน จบปัญหารอยย่นใต้ตาได้อย่างรวดเร็วทันใจและปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และเป็นวิธีที่ไม่เจ็บตัวอีกด้วย 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นคือการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนเข้าไปที่บริเวณชั้นผิว ช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาดูเต่งตึงและอิ่มฟู ฟื้นฟูริ้วรอยเหี่ยวย่นที่ทำให้ใต้ตาดูหมองคล้ำและอ่อนล้า โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตราย เพราะฟิลเลอร์ใต้ตานั้นสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติภายใน 4-6 เดือน หลังฉีดใบหน้าจะดูสดใสราวกับได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ไม่ต้องปกปิดริ้วรอยด้วยเครื่องสำอางอีกต่อไป

สำหรับใครที่สนใจการฉีด Filler ใต้ตา ออนนี่ขอแนะนำว่าให้เลือกฉีดกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ซึ่งที่กังนัมคลินิกของเราเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากอย. และให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น จึงมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงอย่างแน่นอน สามารถติดต่อนัดหมายหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดได้เลยที่ โทรศัพท์ 090-665-3616, 098-269-7450 Email: gangnamclinicthailand@gmail.com และ Line Official: @gangnamclinic

Leave a Reply