‘ดวงตา’ เป็นเครื่องหน้าสำคัญที่สามารถช่วยปรับลุคให้ใบหน้าดูสดใสได้อย่างไม่น่าเชื่อ และหนึ่งในลุคที่สาว ๆ หลาย ๆ คนใฝ่ฝันก็คือ การมีดวงตาที่ดูกลมฉ่ำแบบดอลลี่อาย สำหรับใครที่อยากจะมีดวงตาที่ดูอ่อนเยาว์ในรูปแบบนี้ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือหนึ่งในคำตอบ!
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้เกิดเป็นดอลลี่อายนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก หากใครกำลังสนใจ แต่ยังไม่แน่ใจว่าการฉีดใต้ตาแบบดอลลี่อายคืออะไร มาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กับออนนี่ได้เลย
ดอลลี่อายคืออะไร?
การฉีดดอลลี่อาย หรือ Dolly Eye คือการใช้เทคนิคปรับแต่งดวงตา ให้ดูฉ่ำ ใส ตุ่ย ๆ ดูน่ารักเหมือนสาวเกาหลีญี่ปุ่น ซึ่งทำได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเสริมมัดกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณขอบตาล่างให้บริเวณนั้นดูหนาขึ้น เพื่อเสริมองค์ประกอบในภาพรวมของดวงตาให้ดูกลมโตสดใส เหมาะกับคนที่อยากเพิ่มมิติให้ดวงตาดูฉ่ำวาว ชุ่มชื้น ทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น และทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
ถุงใต้ตาและดอลลี่อายต่างกันอย่างไร?
ถึงแม้ถุงใต้ตาและดอลลี่อายจะอยู่ในบริเวณใต้ตาเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างมาก ดังนี้
- ถุงใต้ตา เป็นถุงไขมันที่กินพื้นที่บริเวณใต้ตาจนมีขนาดใหญ่ สามารถสังเกตได้ชัด และจะเริ่มหย่อนคล้อยเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูโทรมและมีอายุ
- ดอลลี่อาย เป็นมัดกล้ามเนื้อบริเวณขอบตาล่างที่มีลักษณะตึงกระชับและเป็นขอบชัดเจน จะสังเกตเห็นได้ชัดในเวลายิ้มหรือหัวเราะ ซึ่งดอลลี่อายจะมีส่วนช่วยทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
การฉีดดอลลี่อายมีวิธีไหนบ้าง?
การฉีดใต้ตามี 2 วิธีที่ได้รับความนิยม ดังนี้
- ฉีดไขมัน
การฉีดไขมันเป็นการนำไขมันจากบริเวณอื่นของร่างกายมาเติมบริเวณขอบตา โดยผ่านกระบวนการ Fat transfer ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการแพ้ได้ เพราะเป็นการใช้ไขมันของตัวเอง แต่อาจประสบปัญหาเซลล์ตายจนไขมันไม่สามารถเข้าไปเกาะติดได้ในบางส่วน จนผิวบริเวณที่ฉีดไม่เรียบเนียนเสมอกัน อีกทั้งยังเห็นผลได้น้อยกว่า
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดดอลลี่อายเป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกาย เข้าไปในบริเวณขอบตาล่างชิดขนตาตามแนวนอน เพื่อเสริมให้ขอบตาล่างหนาขึ้น ซึ่งมีกระบวนการฉีดไม่นาน และไม่ทิ้งบาดแผล สามารถทำได้ง่าย เห็นผลได้อย่างชัดเจนจึงเป็นวิธีที่ได้รับการแนะนำจากผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ประเภทนี้มาก่อน
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องเตรียมตัวอย่างไร?
- งดยาบางชนิด ที่มีส่วนผสมของกลุ่มยาแอสไพริน หรือ ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำ
- งดทานวิตามิน ที่มีส่วนผสมของ วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม และใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์เนื่องจากอาจจะทำให้เลือดหยุดยากกว่าปกติ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีดเนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดสูบฉีด
- ควรงดกิจกรรมแว็กซ์ผิว ผลัดผิว ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 3 วัน เพื่อลดการระคายเคืองที่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังการฉีด
- งดการออกกำลังกายที่ทำให้เลือดสูบฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ไม่ควรสัมผัสบริเวณที่เพิ่งฉีดมา ทั้งการแกะ เกา กด หรือนวด
- งดการทาครีมบริเวณรอยเข็มที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 คืน
- หลีกเลี่ยงความร้อน รวมถึงการทำเลเซอร์ร้อน ทรีทเม้นต์และซาวน่า 14 วัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารเผ็ดร้อน
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบที่อาจไม่สะอาด
- งดสูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่อาจทำให้หลอดเลือดขยาย และส่งผลให้อาการบวมที่เกิดขึ้นยุบได้ช้า รวมถึงทำให้ผลของฟิลเลอร์อยู่ได้สั้นลง
ข้อควรระวังในการฉีดดอลลี่อาย
- เนื่องจากผิวใต้ตาเป็นบริเวณที่บางมาก จึงอาจเกิดรอยช้ำหลังการฉีดได้ แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน
- หากฉีดในปริมาณมากเกินไปก็อาจทำให้ใต้ตาดูเต่ง และตุ่ยมากเกินไป
- ในการเติมฟิลเลอร์ดอลลี่อาย หากแพทย์ไม่ชำนาญการ และไม่สามารถประเมินปริมาณฟิลเลอร์ทั้งสองข้างให้ออกมาพอดีกันได้ ก็อาจทำให้เมื่อฉีดไปแล้ว ดวงตาที่ได้อาจจะดูไม่เท่ากัน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ฟิลเลอร์ของแท้มีมาตรฐาน
เนื่องจากปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์เสริมความงามเป็นสิ่งที่คนสนใจ จึงเกิดฟิลเลอร์ปลอมในท้องตลาดมากมาย ดังนั้นก่อนการฉีดควรตรวจสอบให้ดี ซึ่งสามารถทำเองได้ด้วยการดูจากสิ่งเหล่านี้
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
- ควรมีเลข lot ที่ต้องตรงกัน โดยจะมีจุดตรงกันแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้องของฟิลเลอร์ แต่โดยส่วนใหญ่ต้องตรงกัน 4 จุด คือเลข lot ที่กล่อง เลข lot ที่ซอง เลข lot ที่สติกเกอร์ เลข lot ที่หลอด
- สามารถโทรเช็คเลข lot. ได้ที่บริษัทที่นำเข้า
หากใครที่อยากมีดวงตาที่สดใส และสนใจอยากจะฉีดดอลลี่อายด้วยการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแวะมาปรึกษากับเราได้ที่กังนัมคลินิก อุ่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย เพราะเราเป็นคลินิกที่มีมาตรฐานเดียวกับประเทศเกาหลี อีกทั้งยังดูแลด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทุกเคส สามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลได้ที่ Line : @gangnamclinic (มี @ ด้วยนะคะ) ออนนี่พร้อมให้บริการ และตอบทุกข้อสงสัยเลยค่ะ