บอกลาขนคุด เผยเทคนิคการกำจัดขนที่ไม่ทำร้ายผิว!

หากใครรู้สึกร้อนใจกับขนที่ขึ้นในบริเวณต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณใต้วงแขวนที่ทำให้ไม่สามารถใส่เสื้อแขนกุดได้อย่างมั่นใจ จนต้องหาวิธีกำจัดขนเพื่อจะได้ใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจสุด ๆ แต่สุดท้ายกลับเลือกกำจัดขนผิดวิธี เพราะขนขึ้นใหม่กลายเป็นขนคุด จนทำร้ายวงแขนแบบไม่เหลือสภาพ (ดี)

สาว ๆ คนไหนที่รู้ตัวว่ากำลังเจอกับปัญหานี้อยู่ ออนนี่ขอเตือนเลยว่า เตรียมบอกลามีดโกน และครีมกำจัดขน รวมถึงผลิตภัณฑ์แว๊กซ์ขนที่ไม่เป็นมิตรต่อผิวบอบบางของเราไปได้เลย และหันมาใช้เทคนิคการกำจัดที่อ่อนโยน แต่จะมีวิธีไหนบ้าง ตามออนนี่มาได้เลย!

“ขนคุด” ตัวร้ายทำลายผิว

ปัญหาขนคุดหลังการกำจัดขน ทำเอาหลาย ๆ คนสยองขวัญกับปัญหาขนคุดที่เกิดตามมา โดยเฉพาะบริเวณผิวใต้วงแขน เพราะนอกจากจะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนแล้ว ยังทำให้เกิดการอักเสบ และมีลักษณะคล้ายสิว ที่สำคัญยังจะทำให้ผิวบริเวณใต้วงแขนเกิดความหมองคล้ำ ไม่น่ามองอีกด้วย

ขนคุดคืออะไร?

ขนคุด (Keratosis Pilaris) หนึ่งในลักษณะการอุดตันของรูขุนขน สามารถสังเกตได้จากบริเวณที่มีตุ่มบวมนูนขึ้นมา และจุดที่เป็นมักจะมีอาการผิวแห้ง หยาบกร้าน เมื่อสัมผัสหรือลูบคลำ จะรู้สึกถึงความไม่เรียบเนียน สากมือ

โดยบริเวณยอดนิยมที่ต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้ มักจะเกิดขึ้นบริเวณต้นแขนส่วนบน ต้นขา บั้นท้าย รวมถึงใบหน้าบริเวณแก้ม และผิวใต้วงแขน ซึ่งอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ทั้งอาการคัน เจ็บ อักเสบ หรือระคายเคืองเป็นบางครั้ง แต่โดยส่วนมากจะไม่มีผลกระทบอะไรมาก นอกจากทำให้ผิวดูไม่สม่ำเสมอและไม่เรียบเนียนเท่านั้น

อาการของขนคุด

  • มีตุ่มเล็ก ๆ บวมนูนขึ้นตามผิวหนัง โดยจะมีเส้นขนอยู่ในนั้น
  • บริเวณผิวหนังที่เกิดตุ่ม จะมีลักษณะแห้งและหยาบกร้าน
  • ในช่วงที่อากาศหนาว หรือเริ่มเปลี่ยนฤดูกาล อาจส่งผลทำให้ผิวบริเวณที่เป็นขนคุดแห้งกว่าเดิม
  • เมื่อสัมผัสหรือลูบผ่านผิวในบริเวณที่เป็นขนคุด จะรู้สึกแห้ง คล้ายกระดาษทราย

สาเหตุการเกิด

ขนคุดเกิดจากความผิดปกติของการสะสมเคราติน (Keratin) ในร่างกาย เพราะโดยปกติแล้วเคราตินจะทำหน้าที่เป็นโปรตีนรูขุมขน ช่วยป้องกันสารอันตรายและการติดเชื้อของผิวหนัง แต่เมื่อเกิดการสะสมที่มากเกินไปจะทำให้ชั้นผิวหนาขึ้น ส่งผลให้ขนที่งอกใหม่ ไม่สามารถทะลุผิวหนังออกมาได้ จนทำให้เส้นขนต้องเจริญเติบโตและงอกม้วนอยู่ในชั้นใต้ผิว และถูกดันออกมาจนกลายเป็นตุ่มนูน ไม่เรียบเนียน

โดยสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เคราตินเกิดการสะสมแบบผิดปกติ คือพฤติกรรมการกำจัดขนทั้งการแว๊กซ์ การถอนโดยใช้แหนบที่คมมากเกินไป รวมถึงการโกนขน ซึ่งวิธีทั้งหมดนี้จะไปทำให้เส้นขนขาด ติดอยู่ใต้ชั้นผิว ส่งผลให้เกิดการติดค้างจนอุดตัน และกลายเป็นขนคุดในที่สุด

วิธีรักษาขนคุด

วิธีกำจัดขน เลเซอร์กำจัดขนแบบไหนดีสุด

1. ถอนขนคุด โดยใช้แหนบที่ไม่คมมากเกินไป

เป็นวิธีรักษาที่เหมาะกับบริเวณที่มีขนคุดโผล่ขึ้นมาเหนือชั้นผิวหนังเล็กน้อย ออนนี่แนะนำให้เลือกใช้แหนบที่ไม่คมมากจนเกินไป ค่อย ๆ หนีบและดึงขนคุดออกมาอย่างช้า ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะหลุดออกมาทั้งรากทั้งโคน และที่สำคัญจะต้องเบามือระหว่างขั้นตอนการถอน เพราะจะช่วยป้องกันอาการอักเสบและการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้

2. รักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว

จากที่กล่าวไปในข้างต้น ถึงลักษณะผิวที่แห้งและหยาบกร้านในบริเวณที่เป็นขนคุด เนื่องจากเคราตินสะสมจนทำให้ชั้นผิวหนามากเกินไป การรักษาความชุ่มชื้นด้วยการทาโลชั่นที่ปราศจากน้ำหอมและสารเคมี รวมไปถึงการสครับผิวด้วยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ชั้นผิวที่หนาค่อย ๆ หลุดลอก และกำจัดขนคุดออกไปได้อย่างอ่อนโยน อีกทั้งยังจะช่วยฟื้นฟูให้ผิวมีความเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติด้วย

3. ทายารักษาขนคุด

สำหรับยาทั่วไปที่ใช้ในการรักษาผิวที่เกิดขนขุด จะมีส่วนผสมของสารจำพวก AHA, BHA, กรดซาลิไซลิก เพื่อช่วยในการละลายหัวสิว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวและบรรเทาอาการขนคุดได้ด้วย ทำให้ผิวหนังที่มีการสะสมของเคราตินหลุดลอกและละลายออกไปได้อย่างง่ายดาย

4. การเลเซอร์กำจัดขนคุด

การยิงเลเซอร์กำจัดขนขุดถือเป็นตัวช่วยที่สามารถแก้ไขปัญหาขนคุดได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถกำจัดขนทั่วไปในบริเวณต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการได้แบบถาวร โดยหลักการทำงาน จะเป็นการใช้คลื่นพลังงานจากแสงเลเซอร์ เพื่อเข้าไปทำให้ขนคุดที่กำลังขึ้นเกิดการฝ่อตัวลง ส่งผลให้ตุ่มนูนยุบตัว พร้อมคืนผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

ส่วนใครที่สงสัยว่านวัตกรรมเลเซอร์กำจัดขนแบบไหนดีสุด และเห็นผลได้รวดเร็วทันใจ ออนนี่ขอแนะนำบริการเลเซอร์กำจัดขน Long Pulse ND Yag Laser ที่กังนัมคลินิก ซึ่งเป็นเครื่องเลเซอร์กำจัดขนถาวรที่มีความคลื่น 1064 นาโนเมตร และ 1320 นาโนเมตร พร้อมช่วยกำจัดเส้นขนและกระชับรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะเป็นอย่างสำหรับคนที่ต้องการบอกลาขนแบบถาวร สาว ๆ คนไหนสนใจและต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการ สามารถโทรมาได้ที่ 090-665-3616, 098-269-7450 หรืออีเมล: gangnamclinicthailand@gmail.com และ LINE Official: @gangnamclinic (มี @ ด้วยนะคะ) ออนนี่พร้อมตอบทุกคำถามนะคะ