ออนนี่นั้นเชื่อว่า หากขึ้นชื่อว่าเป็น “บาดแผล” แล้ว ไม่ว่าจะเบาแค่ไหนก็สามารถสร้างความเจ็บปวดให้เราได้เสมอ เพราะในขณะที่แผลเกิดก็ได้สร้างความเจ็บปวด และหลังจากเกิดแล้ว บาดแผลก็ยังได้ทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดเอาไว้ที่เรียกว่า “รอยแผลเป็น” หลาย ๆ คน ไม่ได้อยากมีรอยแผลเป็น แต่ก็ไม่สามารถไปห้ามแผลเป็นที่เกิดได้ใช่ไหมล่ะคะ แต่เราสามารถหาทางรักษารอยแผลเป็นที่ช่วยเสริมความมั่นใจของเราได้ค่ะ โดยเฉพาะรอยแผลเป็นที่เห็นชัด เด่น นูน อาจทำให้เสียบุคลิกหรือเสียความมั่นใจได้เลย 

นอกจากการรักษาและลบรอยแผลเป็นแล้ว การลบรอยสักด้วยเลเซอร์เองก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายๆ คนอยากทำเพื่อลบความทรงจำที่มากับรอยสักนั้น ๆ และในวันนี้ ออนนี่จะขออาสาพาทุกคนไปรู้จักกับเลเซอร์นวัตกรรมใหม่ล่าสุดอย่าง “Picoway เลเซอร์ลบรอยสักและรอยแผลเป็น” กัน ว่าแต่จะเป็นยังไงนั้น ตามไปไขข้อสงสัยกันเถอะ!  

เข้าใจลักษณะแผลเป็นก่อนเลือกวิธีลบรอยแผลเป็น

หนุ่มสาวหลายคนอาจมองว่า แผลเป็นลักษณะแบบไหนก็เหมือนกัน แต่ออนนี่บอกได้เลยว่า จริง ๆ แล้ว แผลเป็นนั้นสามารถแบ่งยิบย่อยออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีวิธีการลบหรือเลเซอร์รอยแผลเป็นที่แตกต่างกันดังนี้

1. คีลอยด์ Keloid มีลักษณะเฉพาะคือ แผลเป็นจะโตนูน และล้ำออกนอกขอบแผลที่เคยเป็น เกิดจากการสร้างและเรียงตัวของคอลลาเจนมากเกินปกติ
2. แผลเป็นนูน Hypertrophic scars มีลักษณะนูน แดง คล้ายคีลอยด์ แต่ไม่ออกนอกรอยแผลเดิม
3. แผลเป็นหดรั้ง Contracture Scar เกิดตามหลังไฟไหม้ ลวก มีลักษณะบีบรัด รั้ง อาจทำให้ข้อต่อบริเวณที่เป็น ขยับไม่ได้ และลงลึกได้ถึงกล้ามเนื้อ ปลายประสาท
4. Acne Scar มีได้หลายลักษณะ ตั้งแต่เป็นหลุมแคบลึก เว้าโค้งยุบตัว ปัจจุบันมีเลเซอร์ช่วยทำให้ดีขึ้นได้

แผลเป็นแต่ละประเภทจะมีวิธีรักษาอย่างไร

การรักษาแผลเป็นในปัจจุบันมีหลายวิธีด้วยกัน โดยส่วนมากแล้ว แพทย์จะจำแนกวิธีการรักษาให้แตกต่างกันไปตามลักษณะของแผลเป็นและความมาก-น้อย ของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผิวหนัง ดังนี้

1. การทายา 

          วิธีนี้จะช่วยให้แผลเป็นที่เป็นรอยแดง รอยคล้ำดำ จะค่อย ๆ จางลง แต่เป็นวิธีที่ต้องมีวินัยและใช้อย่างสม่ำเสมอ

      2. การผ่าตัด 

          ในกรณีแผลเป็นจากการไหม้ หรือลวกเป็นบริเวณกว้าง และส่งผลให้ขยับข้อ แขน ขา บริเวณนั้นไม่ได้ ศัลยแพทย์ตกแต่งจะช่วยรักษาได้แต่อาจจะต้องปลูกถ่ายผิวหนังมาจากบริเวณอื่น

     3. การทำเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น 

         วิธีนี้เป็นวิธีการรักษาแบบใหม่ แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการทายามาก แต่ก็ให้ผลการรักษาที่เห็นผลดีกว่า เหมาะกับแผลเป็นที่เกิดในบริเวณเด่นชัด ซึ่งการทำเลเซอร์ มีได้สองแบบ คือ

• Pulsed Dye Laser เป็นวิธีที่ยิงไปบนแผลเป็นที่มีรอยแดง เช่นแผลสิวแดง ๆ หรือแผลที่นูนแบบคีลอยด์ก็ได้ หลังยิงจะไม่ทำให้เกิดแผลซ้ำ การทำงานของเลเซอร์ คือ จะลงไปที่หลอดเลือดฝอยบริเวณแผลและทำให้แผลแดงน้อยลง แบนลง รอยจางลง แต่ก็ต้องยิงซ้ำหลายครั้ง ยิ่งมากครั้ง ก็ยิ่งดีขึ้นค่ะ
• Fractional Laser  วิธีนี้จะค่อนข้างเจ็บตอนทำ มักจะทาครีมยาชาก่อนทำ การทำงานคือเลเซอร์จะส่งพลังงานลึกลงไปในผิว เป็นหย่อมเล็กมาก ๆ เป็นการกระตุ้นเนื้อเยื่อรอบ ๆ ให้จัดเรียงตัวใหม่ที่เรียกว่า Collagen Remodeling จึงทำให้การรักษาค่อนข้างได้ผลดีกว่าแบบแรก ผลที่จะได้รับ คือ แผลเป็นที่เป็นหลุมบ่อ หลุมสิว เรียบเนียนขึ้น ผิวหน้าส่วนอื่นก็จะมีคอลลาเจนเพิ่มขึ้นด้วย กรณีที่ทำบนแผลเป็นนูน เช่น คีลอยด์ หรือแผลผ่าตัดที่นูนใหญ่ ก็จะช่วยให้แบนลง เนื้อแผลจะอ่อนนุ่มใกล้เคียงเนื้อปกติมากขึ้น แต่ก็ต้องทำหลายครั้งเช่นกัน แต่วิธีการนี้ ทำเพียงครั้งเดียวก็เริ่มเห็นผลแล้ว แต่ถ้าทำต่อเนื่องกัน 4-5 ครั้ง ก็จะทำให้เห็นผลดียิ่งขึ้นไปอีก

หากใครอ่านแล้วยังงง ๆ ว่าเลเซอร์รอยแผลเป็น 2 ประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร ออนนี่ได้ทำสรุปตารางออกมาให้ดังนี้

     4. การฉีด 

        เป็นวิธีที่ไม่แพง แต่เจ็บมากหน่อย วิธีนี้เป็นการฉีดยากลุ่มเสตียรอยด์เข้าไปในเนื้อแผลเป็นนูน จะทำให้นิ่มและบางลงได้ แต่ห้ามฉีดเสตียรอยด์ในแผลหลุม แผลสิว เพราะอาการจะยิ่งแย่ ส่วนการฉีดอย่างอื่น เช่น การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปใน 

        แผลเป็นที่เป็นหลุม สารที่ใช้ได้คือ ไฮยารูลอนิก แอซิด ซึ่งจะมีฤทธิ์อยู่ชั่วคราว เพราะจะสลายไปได้เมื่อเวลาผ่านไป

ขั้นตอนการรักษาแผลเป็นด้วย PICOWAY

1. แพทย์จะทำความสะอาดผิว และในบางการรักษาอาจใช้การทายาชา 30-60 นาทีร่วมด้วย
2. เมื่อทำ PICOWAY Laser ลบรอยสักและรอยแผลเป็น เราจะมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรแหลม ๆ ทิ่มลงบนผิวเล็กน้อย 
3. ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ขึ้นกับรายละเอียดโปรแกรมของแต่ละเคส
4. หลังทำเลเซอร์เสร็จ แพทย์จะแพ็คเย็นต่ออีกระยะหนึ่งตามอาการ
5. ในบางรายจะมีอาการ ผิวแดงได้ 2-5 วัน ผิวบวม 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคน และรายละเอียดของการทำการรักษาในแต่ละเคส

ข้อดีของเครื่อง PICOWAY

1. หลังทำจะไม่มีแผลตกสะเก็ด ไม่ต้องพักฟื้น และเจ็บน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องเลเซอร์รุ่นอื่น ๆ รวมทั้งไม่มีผลข้างเคียงเหมือนการรักษาด้วยเลเซอร์รุ่นเดิม ๆ
2. ใช้เวลาในการรักษาเพียง 30-45 นาที
3. PICOWAY ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin) ใต้ชั้นผิว ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เนื้อเยื่อบริเวณรอยแผลเป็นให้เรียบเนียน ช่วยให้ผิวแข็งแรง เปล่งปลั่ง สดใส และดูอ่อนเยาว์ลง
4. จากการศึกษา พบว่าการใช้เลเซอร์ลบรอยสัก PICOWAY ที่มีความถี่ระดับ Picosecond นี้ จะสามารถทำให้เม็ดสีหรือหมึกรอยสัก แตกตัวได้มากและกลายเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก ๆ หรือที่เรียกว่า miniscule particles ซึ่งต่างจากรุ่นเดิมที่เป็น QSW หรือ nanosecond ที่พบการแตกตัวน้อยกว่าและมีขนาดใหญ่กว่า และเมื่อเม็ดสีแตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กมาก ๆ จึงถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ผลการรักษาเรื่องลบรอยสักและเม็ดสี ได้ผลดีขึ้นและใช้จำนวนครั้งน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีเดิม
5. มีประโยชน์ในการนำมาใช้ในแผนกผิวหนัง เพื่อแก้ไขความผิดปกติของเม็ดสีที่มากเกินไป (Hyperpigmentation) เช่น ฝ้า กระ ปาน รอยดำต่าง ๆ รวมถึงการลบรอยสัก

ข้อเสียของเครื่อง PICOWAY

1. เลเซอร์รอยแผลเป็นและเลเซอร์ลบรอยสักจาก PICOWAY นั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูง
2. คลินิกบางแห่งอาจไม่รวมค่ายาชากับค่ารักษา ดังนั้นเราอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม
3. มีรอยแดงและบวมหลังจากทำ

หากสนใจเลเซอร์รอยแผลเป็น PICOWAYในราคาพิเศษ กังนัมคลินิกมาพร้อมกับดีลเด็ด ๆ ปัง ๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนลบทุกรอยที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยดีลโดน ๆ จากคลินิกเริ่มต้นเพียง 790 บาทเท่านั้น

โปรโมชั่นลบรอยแผลเป็น PICOWAY ราคาพิเศษ

พิเศษ! ราคาในตารางนี้รวมค่ายาชาแล้ว

โปรโมชั่นเลเซอร์ลบรอยสัก PICOWAY ราคาพิเศษ

พิเศษ! ฟรีครั้งแรกพร้อมรวมค่ายาชาแล้ว 

ด่วน! ราคาพิเศษ สำหรับลูกค้าของกังนัมคลินิกทุกท่าน รอให้คุณมาพิสูจน์แล้ววันนี้ ที่กังนัมคลินิกสาขาซีคอนสแควร์ศรีนครินทร์เท่านั้น

ราคาพิเศษ !!! เฉพาะที่กังนัมคลินิกเท่านั้น