เพราะใบหน้าเป็นหน้าต่างของความมั่นใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ใบหน้าที่เคยเนียนกระจ่างใสกลับค่อย ๆ เริ่มหมองคล้ำจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุ สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันของเราเอง
หากใครกำลังรู้สึกว่า ใบหน้าของตัวเองกำลังเริ่มหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะไปมองหาผลิตภัณฑ์กู้หน้าใสที่ใคร ๆ ก็ว่าดี ลองมาใช้เวลาสัก 5 นาทีสั้น ๆ เพื่อสำรวจถึง 4 ต้นตอที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำที่ออนนี่นำมาฝากกันก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าใบหน้าหมองคล้ำเกิดจากอะไร และควรมีวิธีดูแลอย่างไรให้ตรงจุด ใครอยากรู้แล้วว่าจะมีเปลี่ยนหน้าหมองให้น่ามองวิธีไหนบ้าง ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กับออนนี่ได้เลย!
สาเหตุที่ 1 : อายุ
อายุที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวอ่อนแอและเสื่อมสภาพลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย จุดด่างดำ ความหย่อนคล้อย รวมไปถึงความหมองคล้ำของใบหน้าก็ล้วนเกิดขึ้นจากสุขภาพผิวที่เปลี่ยนแปลงตามอายุทั้งสิ้น
ควรดูแลผิวหน้าเมื่ออายุเพิ่มขึ้นอย่างไร?
สำหรับใครที่รู้สึกว่า ใบหน้าหมองคล้ำเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ออนนี่ขอแนะนำให้ทุกคนลองหันกลับมาดูแลสุขภาพผิวตัวเองง่าย ๆ ดังนี้
- นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ผิวได้พักผ่อนและฟื้นบำรุงตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย พร้อมหมั่นหาเวลาออกกำลังกายเป็นประจำ
- ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ
- มองหาทางเลือกที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของชั้นผิวจากภายใน เช่น การรับประทานคอลลาเจนควบคู่กับวิตามินซี และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างเซลล์ผิวใหม่ ๆ พร้อมเผยผิวหน้าที่ขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนยกกระชับใบหน้าอย่างตรงจุด ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่การทำ Hifu Ulthera Thermage การร้อยไหม ตลอดจนการฉีดสารเติมเต็มอย่างโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ ไปจนถึงการผ่าตัดเพื่อยกระชับใบหน้า
สาเหตุที่ 2 : สภาพแวดล้อม
อายุที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นเพียงสาเหตุเดียวที่ทำให้สุขภาพผิวอ่อนแอลงเท่านั้น แต่สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนมลภาวะรอบด้านที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน ยังมีส่วนทำให้ผิวหมองคล้ำได้เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดที่ก่อให้เกิดความหมองคล้ำบนใบหน้า ไปจนถึงปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำที่อาจลุกลามไปเป็นมะเร็งผิวหนังได้โดยไม่ทันตั้งตัว อีกทั้งรังสียูวีจากแสงแดดยังจะเข้าไปทำลายเส้นใยในชั้นผิวหนังอย่าง Elastin จนทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยได้อีกด้วย
นอกจากนี้ การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นควันและอากาศเย็นเป็นเวลานานยังก่อให้เกิดปัญหาผิวแห้ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวลอก ผิวหมองคล้ำ สิวประเภทต่าง ๆ ผื่นคัน และปัญหาผิวหนังอักเสบในหลากหลายรูปแบบตามมาได้
ควรดูแลอย่างไรหากสภาพแวดล้อมทำให้หน้าหมองคล้ำ?
หากมลภาวะและสภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ ออนนี่ขอแนะนำให้ทุกคนวางแผนดูแลสุขภาพผิวใบหน้า ดังนี้
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับผิว พร้อมทำความสะอาดใบหน้าอย่างล้ำลึกเป็นประจำอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกและความมันบนใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวและใบหน้าหมองคล้ำ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้ตรงกับสาเหตุ เช่น หากแสงแดดทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ นอกจากจะใช้ครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงการโดนแดดเป็นเวลานานแล้ว ทุกคนยังควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ไวต่อแสงแดด เช่น ส่วนผสมที่ฤทธิ์เป็นกรด วิตามินเอ อีกทั้งยังควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวบางลง และการสครับผิวหน้า เป็นต้น
- ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำเพื่อบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น พร้อมช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงเพื่อลดปัญหาสิวและปัญหาผิวอื่น ๆ ได้
สาเหตุที่ 3 : พฤติกรรม
นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาวแล้ว รู้หรือไม่? พฤติกรรมการใช้ชีวิตยังเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การสูบบุหรี่ทุกประเภท หรือแม้แต่การรับแสงจากจอโทรศัพท์ที่มากเกินไปก็มีส่วนทำให้ใบหน้าหมองคล้ำได้เช่นกัน
ที่สำคัญ ความเครียดทั้งจากการทำงานและการใช้ชีวิตแง่มุมต่าง ๆ ยังกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนอย่าง “คอร์ติซอล” ซึ่งนอกจากจะทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติในหลาย ๆ ด้านแล้ว ฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอลยังเป็นตัวกระตุ้นทำให้ต่อมไขมันผลิตความมันส่วนเกินเพิ่มขึ้นบนใบหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้อีกด้วย
หน้าหมองคล้ำเกิดจากพฤติกรรมควรจัดการอย่างไร?
หากใบหน้าหมองคล้ำเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราเอง ก่อนที่จะไปเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบใด ออนนี่ขอแนะนำให้ทุกคนลองหันกลับมาดูแลผิวตามขั้นตอนดังนี้
- ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง โดยงดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ตลอดจนเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ พร้อมหาเวลาออกกำลังกายอยู่เสมอ
- ดูแลสุขภาพใจให้ห่างไกลจากความเครียด ไม่ว่าจะเป็นการหาเวลาพักผ่อนให้เหมาะสม รวมไปถึงการหากิจกรรมคลายเครียดในช่วงเวลาต่าง ๆ เพื่อลดการปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิว
- สำรวจพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ก่อให้เกิดปัญหาผิว เช่น การใช้โทรศัพท์ที่มากเกินไป การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ตลอดจนการไม่ใช้ครีมบำรุงผิวเลย เป็นต้น
สาเหตุที่ 4 : การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มากเกินไป
หลายคนเชื่อว่า การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายตัวพร้อมกันสามารถช่วยดูแลปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ คนบางส่วนจึงลงสกินแคร์บนผิวหน้าเป็นจำนวนมากทั้งในช่วงเวลาเช้าและเย็น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การใช้ครีมบำรุงผิวและสกินแคร์ประเภทต่าง ๆ ที่มากเกิน ไม่เพียงแต่จะส่งผลให้ผิวมีความเครียดสะสมเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ครีมบำรุงผิวแต่ละตัวยังมาพร้อมกับสารเคมีที่แตกต่างกันออกไปที่อาจทำปฏิกิริยากันจนก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ แถมยังลดประสิทธิภาพการทำงานของสกินแคร์แต่ละตัวได้อีกด้วย ผลที่ตามมา คือ นอกจากจะทำให้ผิวบางลงแล้ว ใบหน้ายังมีโอกาสหมองคล้ำได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
สกินแคร์ทำหน้าหมองคล้ำทำไงดี?
หากการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่มากเกินไปทำให้ใบหน้าบอบบาง ระคายเคืองได้ง่าย และหมองคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด ออนนี่ขอแนะนำให้ทุกคนลองหยุดใช้สกินแคร์ทุกตัวก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นจึงเลือกใช้สกินแคร์ตัวที่จำเป็นเพียงอย่างเดียวก่อน เช่น เซรั่ม และ มอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเป็นการฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงอีกครั้ง
หากใครยังรู้สึกว่า ผิวของตัวเองยังระคายเคืองและหมองคล้ำอยู่ ออนนี่ขอแนะนำให้ทุกคนลองหาเวลาไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเป็นการตรวจเช็กความแข็งแรงของผิวหนัง ตลอดจนปรึกษาเลือกสกินแคร์ที่เหมาะสมกับประเภทและปัญหาผิวอีกครั้ง
ง่าย ๆ เพียงเท่านี้ ทุกคนก็รู้แล้วว่าหน้ามองคล้ำเกิดจากสาเหตุใด และเข้าใจอย่างชัดเจนแล้วว่าหน้าหมองคล้ำทำไงดีถึงจะแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่นอกเหนือจากสาเหตุที่นำมาฝากนี้ ใบหน้าที่หมองคล้ำยังอาจแฝงไปด้วยปัญหาผิวที่ต้องได้รับการตรวจเช็กและดูแลจากผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย ที่กังนัมคลินิก ออนนี่และคุณหมอผู้เชี่ยวชาญทุกคนพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการกู้หน้าหมองให้กลับมาน่ามองอีกครั้งได้อย่างปลอดภัยและตรงจุด พร้อมตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวด้วยนวัตกรรมและเครื่องมือที่ทันสมัย สอบถามทุกปัญหาผิวก่อนใครที่ Line : @gangnamclinic (มี @ ด้วย) คุณหมอตอบเองทุกเคส!