‘อยากลดน้ำหนัก ลดพุง’ แต่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย เชื่อไหมว่านี่คือคำถามที่ออนนี่เจออยู่เป็นประจำ เพราะในการใช้ชีวิตปัจจุบัน ทุกคนล้วนมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ ทั้งการเรียนและการทำงาน ย่อมส่งผลให้ตารางในแต่ละวันแน่นจนไม่อาจหาเวลาไปออกกำลังกายได้ แต่รู้ไหมว่า เราสามารถใช้วิธีในการช่วยลดน้ำหนักได้อีกหลายวิธี หนึ่งในนั้นก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยหันมารับประทานผลไม้ให้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ผลไม้ทุกชนิดที่จะกินแล้วผอมเสมอไป บทความนี้ออนนี่เลยจะมาแนะนำถึง 10 ผลไม้ลดพุง ที่นอกจากจะไม่ทำให้อ้วนแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย และหารับประทานได้ง่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนจะมีอะไรบ้าง ติดตามได้เลย
แอปเปิ้ล
เรียกได้ว่าแอปเปิ้ลเป็นสุดยอดผลไม้สําหรับคนลดน้ำหนักอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะมีแคลอรีต่ำแล้ว ยังช่วยให้อิ่มนาน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งสามารถช่วยควบคุมการย่อยอาหาร นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังมีสารประกอบที่เรียกว่าเพคติน ซึ่งช่วยลดปริมาณไขมันที่ร่างกายดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้หลากชนิดตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็น สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ต่างก็เป็นผลไม้ลดพุงที่ออนนี่ต้องยกนิ้วให้ เพราะเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ นอกจากนี้ยังมีแคลอรีค่อนข้างต่ำ โดยสตรอว์เบอร์รี 1 ถ้วยจะมีแคลอรีเพียง 49 แคลอรีเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นแหล่งวิตามิน C ที่ดี ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย โดยอาจนำมาผสมกับโยเกิร์ต ข้าวโอ๊ต หรือสมูทตี้เพื่อรสชาติที่อร่อยขึ้น
เกรฟฟรุต
เกรปฟรุตถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ ผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน เนื่องจากมีปริมาณน้ำสูงและมีแคลอรี่ต่ำ นอกจากนี้ยังมีสารประกอบที่ช่วยลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และยังช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบเผาผลาญได้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นสำหรับใครที่ชอบรสชาติเปรี้ยวอมหวาน และต้องการลดน้ำหนัก อย่าลืมซื้อเกรฟฟรุตมาติดบ้านไว้ออนนี่แนะนำเลย
กีวี
กีวีเป็นผลไม้แคลอรีต่ำที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์และวิตามิน C นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์ที่เรียกว่าแอกทินิดินซึ่งสามารถช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องอืดได้อีกด้วย เรียกได้ว่ากีวีคือผลไม้ลดพุงที่สามารถรับประทานเป็นของว่าง หรือจะนำใส่ในสลัดพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการก็เข้ากันเป็นอย่างดี
ส้ม
ส้มเป็นแหล่งวิตามิน C ที่ดีและมีแคลอรีค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งสามารถช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มท้อง พร้อมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญ นอกจากนี้ การรับประทานผลไม้สําหรับคนลดน้ำหนักยังสามารถทำได้หลากหลายวิธี จะนำมาคั้นน้ำก็ดี หรือนำไปใส่ในสลัดก็อร่อยไม่แพ้กัน
มะละกอ
อีกหนึ่งผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วนที่ออนนี่อยากแนะนำ เพราะมะละกอเป็นผลไม้แคลอรีต่ำที่อุดมด้วยไฟเบอร์ วิตามิน C และโพแทสเซียม นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์ที่เรียกว่าปาเปนซึ่งสามารถช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องอืดได้เช่นกัน ที่สำคัญคือมะละกอเป็นผลไม้ที่ราคาค่อนข้างจับต้องได้ หาซื้อได้ง่ายในประเทศเขตร้อนอย่างบ้านเราด้วย
สัปปะรด
สับปะรดเป็นผลไม้ลดพุงที่มีแคลอรีต่ำ ทว่ากลับอุดมด้วยวิตามิน C และโบรมีเลน ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีส่วนช่วยในการย่อยอาหารและลดการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ในปริมาณมาก ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขับถ่าย ที่สำคัญคือรสชาติอร่อยถูกปากคนไทย จะกินสดก็ได้ หรือนำไปประกอบอาหารก็ได้หลากหลายเมนู
ทับทิม
ทับทิมเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ยอดเยี่ยม นอกจากนั้นยังเป็นผลไม้สําหรับคนลดน้ำหนักที่ช่วยในการลดการอักเสบ และปรับปรุงการทำงานของระบบเผาผลาญ อีกทั้งยังมีแคลอรีค่อนข้างต่ำ โดยทับทิม 1 ถ้วยมีแคลอรีเพียง 144 แคลอรี
มะเขือเทศ
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่ามะเขือเทศคือผัก แต่ในเชิงเทคนิคแล้วจัดว่าเป็นผลไม้เนื่องจากมีเมล็ด นอกจากนี้ยังมีคุณสมับติในการเป็นผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วนไม่น้อยหน้าผลไม้ชนิดอื่น ๆ เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งวิตามิน C ที่ดีและมีแคลอรีต่ำแล้ว ยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี
แตงโม
ออนนี่ขอปิดท้ายการแนะนำผลไม้ลดพุงด้วยแตงโม ที่เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ยอดฮิตของคนไทยก็คงไม่ผิดนัก ด้วยรสชาติที่หวานฉ่ำเหมาะสำหรับเมืองร้อนเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามิน A และ C ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้ม รวมถึงไฟเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับระบบขับถ่ายและการลดน้ำหนักโดยตรงด้วย
Emsculpt-mus อีกหนึ่งทางเลือกลดพุงที่กังนัมคลินิก
เมื่อได้ทราบกันไปแล้วว่าผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วนทั้ง 10 ประเภทที่ออนนี่นำมาแนะนำมีอะไรบ้าง แต่สำหรับบางคน การควบคุมการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว อาจเห็นผลลัพธ์ได้ไม่รวดเร็วดั่งใจ ออนนี่จึงมีอีกทางเลือกมาฝากอย่าง Emsculpt-mus มาแนะนำ
Emsculpt-mus คือนวัตกรรมทางการแพทย์ในการดูแลรูปร่างโดยสามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ง่าย ๆ แม้ไม่ได้ออกกำลังกาย โดย Emsculpt-mus จะใช้เทคโนโลยี High-Intensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) เข้าไปทำปฏิกิริยาลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อให้เกิดการหดเกร็ง โดยทำเพียงแค่ 30 นาที ก็เหมือนกับการได้ออกกำลังกายหนัก ๆ แล้ว
และหากคุณกำลังมองหาคลินิกที่มีเครื่อง Emsculpt-mus ที่ได้มาตรฐานกังนัมคลินิกคือคำตอบ เพราะเรามาพร้อมกับบริการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัตถการ ที่มีประสบการณ์มานาน ยินดีให้คำปรึกษาฟรีก่อนเข้ารับบริการทุกเคส เพื่อการสร้างซิกซ์แพ็ก พร้อมช่วยลดไขมันและกระชับสัดส่วนได้อย่างตอบโจทย์ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายเข้ารับบริการได้เลยที่ โทรศัพท์ 090-665-3616, 098-269-7450 อีเมล: gangnamclinicthailand@gmail.com และ LINE Official: @gangnamclinic (มี @ ด้วยนะคะ)