“เหงื่อออกมากกว่าปกติ” ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแต่เป็นสัญญาณความผิดปกติของร่างกาย แถมยังทำให้สูญเสียความมั่นใจจากความเปียกชื้น จนนำไปสู่กลิ่นไม่พึงประสงค์ ใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ ออนนี่มีวิธีแก้มาแนะนำกันค่ะ
จุดเริ่มต้นของ “เหงื่อ” เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ร่างกายของคนเราก็เหมือนเครื่องกล หากมีความร้อนสะสมจากการกระบวนการทำงานในร่างกายที่มากเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมาได้ ด้วยเหตุนี้กลไกตามธรรมชาติจึงสร้างให้เกิด “กระบวนการเมตาบอลิซึม” (Metabolism) ที่จะเปลี่ยนแปลงอาหารที่รับประทานเข้าไปให้กลายเป็นความร้อน ก่อนจะระบายออกมาในรูปแบบของเหงื่อ เพื่อควบคุมให้อุณหภูมิของร่างกายอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งการหลั่งเหงื่อก็คือวิธีการถ่ายเทความร้อนที่เกิดจากกระบวนการของร่างกายนั่นเอง
สาเหตุที่ทำให้เหงื่อออกมากกว่าปกติ
ภาวะเหงื่อเยอะเกิดจากอะไร? สำหรับคำถามนี้สามารถตอบได้ว่ามีอยู่ 2 สาเหตุด้วยกัน คือกลุ่มที่ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน (Primary Hyperhydrosis) และ กลุ่มที่มีสาเหตุจากภาวะความผิดปกติในร่างกาย (Secondary Hyperhydrosis)
- กลุ่มที่ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน (Primary Hyperhidrosis)
เป็นกลุ่มภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และไม่ได้มีภาวะแทรกซ้อนจากโรคอื่น ๆ สามารถเกิดได้ทั้งเพศหญิงและชาย โดยจะพบว่ามีเหงื่อออกมากทั้งบริเวณใบหน้า ฝ่ามือ ศีรษะ และรักแร้ในปริมาณเท่า ๆ กันต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป และมีภาวะนี้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ โดยมักมีเหงื่อออกในช่วงกลางวันแต่จะไม่มีเหงื่อออกขณะนอนหลับ - กลุ่มที่มีสาเหตุจากภาวะความผิดปกติในร่างกาย (Secondary Hyperhidrosis)
เกิดจากกลุ่มที่มีความผิดปกติทางร่างกาย อาจเป็นภาวะแทรกซ้อนหรือเกิดจากผลข้างเคียงของโรคอื่น ๆ เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษที่ส่งผลให้ร่างกายมีการเผาผลาญสูง, โรควัณโรคปอด, โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง, โรคอ้วน, วัยใกล้หมดประจำเดือน รวมไปถึงการรับประทานยาบางชนิดด้วย
โบท็อกซ์ จัดการปัญหาเหงื่อออกมากกว่าปกติเฉพาะที่ได้
การฉีดโบท็อกซ์ เป็นอีกหนึ่งหัตถการทางเลือกสำหรับคนที่มีภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ โดยจะเป็นการฉีดเข้าไปยังใต้ผิวหนังบริเวณชั้นตื้นที่มีปัญหา ซึ่งโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ไปช่วยยับยั้งสาร Acetylcholine ที่หลั่งออกมาควบคุมระบบประสาทที่ทำให้เกิดการหลั่งของเหงื่อ
สำหรับผลลัพธ์ภายหลังการฉีด จะเริ่มเห็นผลการรักษาที่ชัดเจนภายใน 2-4 สัปดาห์ โดยสามารถสังเกตได้จากการหลั่งของเหงื่อที่ค่อย ๆ ลดลงและแห้งไปในที่สุด ซึ่งวิธีการนี้สามารถช่วยลดเหงื่อได้กว่า 80% และคงผลการรักษาได้นานประมาณ 6-8 เดือน
ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ ควรฉีดจุดไหน?
ภาวะที่เหงื่อออกมากกว่าปกติ สามารถพบได้บ่อย ๆ อยู่สามจุด คือบริเวณรักแร้/ใต้วงแขน,ฝ่ามือ และฝ่าเท้า ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นจุดที่สามารถใช้โบท็อกซ์แก้ไขได้อย่างเห็นผล แต่ก็จะมีปริมาณยูนิตที่ใช้แตกต่างกัน ดังนี้
- รักแร้ ใต้วงแขน : ใช้โบท็อกซ์ประมาณข้างละ 100 ยูนิต เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อและกลิ่นกายบริเวณใต้วงแขนให้ทำงานได้น้อยลง ส่งผลให้สามารถลดเหงื่อออกที่ใต้รักแร้ได้กว่า 80%
- มือ : สำหรับคนที่มีเหงื่อออกมากกว่าปกติตรงบริเวณฝ่ามือ จนทำให้เกิดความเปียกชื้นตลอดเวลา ถ้าผ่านการวินิจฉัยแล้วว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ทราบสาเหตุหรือไม่ได้เกิดจากผลกระทบของโรคไทรอยด์เป็นพิษ ก็สามารถฉีดโบท็อกซ์รักษาได้ โดยจะใช้ประมาณข้างละ 50-100 ยูนิต
- ฝ่าเท้า : ลดปัญหากลิ่นอับ ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อฝ่าเท้าที่นอกจากจะช่วยยับยั้งการหลั่งของเหงื่อแล้ว ยังสามารถลดการหมักหมมของแบคทีเรีย โดยจะใช้โบท็อกซ์ปริมาณข้างละ 50-100 ยูนิต
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ มีอาการคล้ายกับการฉีดยาทั่วไป คือมีอาการเจ็บเล็กน้อยจากการแทงเข็ม, ทิ้งรอยช้ำ หรืออาจเกิดอาการอักเสบติดเชื้อได้ในบางราย แต่ถ้าหากฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ยาที่ผ่าน อย. และได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ ก็สามารถมั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าปลอดภัย
รู้สึกเสียเซล์ฟเพราะเหงื่อออกมากกว่าปกติอยู่ใช่ไหม เข้ามาหาออนนี่ที่กังนัมคลินิก (Gangnam Clinic) ได้เลย เพราะที่นี่เรามีบริการฉีดโบท็อกซ์ระงับเหงื่อและกลิ่นกาย เห็นผลชัดเจนและคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 6 เดือน สนใจโบรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ขจัดปัญหาเหงื่อท่วมเฉพาะที่ได้ง่าย ๆ สอบถามเพิ่มเติมกับออนนี่ได้แล้ววันนี้ แถมมีโปรโมชันดี ๆ อีกเพียบ
สนใจแวะมาสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา หรือทักปรึกษาออนนี่ทาง LINE Official: @gangnamclinic (มี @ ด้วยนะคะ), Inbox Message, โทร. 090-665-3616, 098-269-7450 และ Email: gangnamclinicthailand@gmail.com ได้เลย