ใบหน้าที่มีโหนกแก้มสูงชัด คืออีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ดูแก่กว่าวัย แถมยังทำให้หน้าดูใหญ่ และดูดุขึ้น หลาย ๆ คนที่มีปัญหานี้ จึงอยากที่จะเปลี่ยนให้โหนกแก้มดูเล็กลง เพื่อให้หน้าดูสมส่วนและดูอ่อนวัยขึ้น ออนนี่มีทางเลือกดี ๆ สำหรับคนที่อยากแก้ไขปัญหานี้ กับการฉีดฟิลเลอร์โหนกแก้มที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนหวานขึ้น แต่หากใครที่สงสัยว่าการฉีดฟิลเลอร์จะสามารถตอบโจทย์กับคนมีโหนกแก้มสูงได้อย่างไร ออนนี่มีคำตอบมาบอกกัน รับรองว่าสวยละมุนขึ้นได้แน่นอนค่ะ
โหนกแก้มสูงเกิดจากอะไร?
โหนกแก้มเป็นองค์ประกอบของใบหน้าที่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน เพราะอยู่ในบริเวณสองข้างแก้ม ทั้งยังมีผลต่อมิติและความสมส่วนของใบหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งคนที่มีปัญหาโหนกแก้มสูง ลักษณะโครงสร้างของใบหน้าจะมีกระดูกที่ปูดนูนขึ้นมาด้านข้าง ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูเหลี่ยมจนอาจเสียความมั่นใจไป
การมีโหนกแก้มสูงอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิด แต่สำหรับบางคนอาจเกิดขึ้นได้จากการที่ไขมันบริเวณขมับและใต้ตายุบตัวเมื่อมีอายุมากขึ้น จึงส่งผลให้โหนกแก้มดูสูงขึ้นนั่นเอง
แก้ปัญหาโหนกแก้มสูงด้วยการฉีดฟิลเลอร์
ปัญหาโหนกแก้มสูงสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำหัตถการหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเพื่อกรอหรือตัดกระดูกโหนกแก้ม รวมไปถึงการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับคนที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากเจ็บตัวเยอะ หรือว่าไม่อยากใช้เวลาในการพักฟื้นนาน
การฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้โหนกแก้มสูง จะเป็นการฉีดสารเติมเต็มลงไปยังบริเวณที่ไขมันใต้ชั้นผิวยุบตัว ส่วนมากจะเป็นบริเวณขมับ ใต้ตา และแก้ม เพื่อเป็นการปรับรูปหน้าให้ดูอิ่มเต็มและมีสมมาตร แลดูใบหน้ามีมิติสมส่วนมากยิ่งขึ้น
ข้อปฏิบัติก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้โหนกแก้มสูง
ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์
- ควรเลือกคลินิกที่มีบริการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน โดยสังเกตได้จากป้ายชื่อของคลินิกที่ชัดเจน และมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก รวมถึงเป็นคลินิกที่สะอาดน่าใช้บริการ กว้างขวางและเป็นสัดส่วน รวมถึงตั้งอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นได้ง่าย และเดินทางได้สะดวก
- หาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ประจำคลินิก โดยเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ที่พร้อมให้คำปรึกษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม
- เมื่อตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ก่อนไปใช้บริการต้องงดยาปฏิชีวนะหรือวิตามินบางชนิด โดยสามารถสอบถามได้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ว่ายาที่รับประทานอยู่สามารถรับประทานได้หรือไม่ หรือว่าต้องงดเป็นเวลาอย่างน้อยกี่วันก่อนฉีด เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
- หลังจากการฉีดอาจมีอาการบวมช้ำจากรอยเข็ม หรือมีอาการบวมแดง เขียวช้ำได้เป็นปกติ พยายามอย่าไปสัมผัสในบริเวณที่เป็น โดยอาการบวมและรอยเข็มจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน
- สามารถรับประทานยาแก้ปวด ตามที่แพทย์สั่ง เพื่อบรรเทาอาการบวมได้
- สามารถประคบเย็นได้ แต่ควรประคบตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาฟิลเลอร์ไม่เกาะผิว
- หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ ให้ระมัดระวังอย่าเอามือไปสัมผัสหรือลูบคลำนวดในบริเวณที่ฉีด เพราะอาจส่งผลต่อการกระจายตัวของสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดได้
- หลังจากได้รับการฉีด 24 ชั่วโมง ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ เป็นเวลานานอีกด้วย
- ในช่วง 3 วันแรกหลังทำ พยายามอย่าขยับใบหน้าเยอะ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
- ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตรตามความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ลดโหนกแก้มสูง
ปลอดภัย ฟิลเลอร์แท้สลายได้เองตามธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีการแก้ปัญหาโหนกแก้มสูงที่มีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องทำการผ่าตัด อีกทั้งฟิลเลอร์ยังเป็นสารประกอบไฮยาลูรอนิก ซึ่งสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่ต้องทำการฉีดโดยแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ และควรเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทยอีกด้วย
เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ คือ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำเสร็จ และยังคงความสวยได้นานถึง 12-18 เดือนเลยทีเดียว
ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น
สิ่งที่ทำให้การฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่มีปัญหาโหนกแก้มสูงก็คือการไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องเจ็บตัว รวมถึงไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน เพราะเมื่อทำเสร็จแล้วก็สามารถกลับไปทำงาน หรือทำกิจวัตรต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเอง
สำหรับใครที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์แก้โหนกแก้มสูง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในราคาที่คุ้มค่า และมีความปลอดภัย เพื่อให้ใบหน้าสมส่วน สวยละมุน แลดูอ่อนเยาว์ แวะมาที่กังนัมคลินิกได้เลยนะคะ เราเป็นคลินิกที่มีมาตรฐานเดียวกับประเทศเกาหลี หากใครสนใจสามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line : @gangnamclinic (มี @ ด้วยนะคะ) ออนนี่พร้อมให้บริการ และตอบทุกข้อสงสัยเลยค่ะ