รู้ครบเรื่องฝ้า! ฝ้าผู้หญิงกับฝ้าผู้ชายต่างกันอย่างไร?

ฝ้าผู้หญิงกับฝ้าผู้ชายต่างกันอย่างไร

‘ฝ้า’ หนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่ทำให้หลายคนต้องหนักใจ เพราะเมื่อเกิดขึ้นทีไรก็เป็นเรื่องยากต่อการรักษา แม้ส่วนใหญ่ปัญหาฝ้ามักจะเกิดกับผู้หญิง แต่ผู้ชายก็จะวางใจไปไม่ได้เพราะฝ้าสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ซึ่งหลายคนอาจเริ่มตั้งคำถามในใจว่าแล้วฝ้าผู้หญิงกับฝ้าผู้ชายต่างกันอย่างไร ออนนี่จึงจะพามาหาคำตอบพร้อมปูพื้นฐานเรื่องฝ้าที่ทุกคนควรรู้ในบทความนี้ค่ะ!

ทำความรู้จักชนิดและประเภทของฝ้า

“ฝ้า” เกิดจากการสะสมของเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ที่ทำหน้าที่ผลิตเม็ดสีขึ้นมาปกป้องผิว ทำให้ร่างกายผลิตเม็ดสีหรือเมลานิน (Melanin) ขึ้นมามากกว่าปกติ จนทำให้เกิดเป็นจุดที่มีสีเข้มมากกว่าผิวหนัง ซึ่งมักพบได้ในบริเวณที่ร่างกายสัมผัสแสงแดด เช่น ใบหน้า หน้าผาก โหนกแก้ม และมักเกิดขึ้นเมื่ออายุ 30 ปี ขึ้นไป โดยพบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งมักจะมีลักษณะ ดังนี้

  • ฝ้าตื้น 
    เป็นฝ้าที่มีสีน้ำตาลขอบชัด เกิดได้ง่ายในระดับผิวหนังกำพร้า หรือบริเวณผิวหนังชั้นนอก ซึ่งสามารถรักษาให้จางลงได้ด้วยการทาครีมกันแดด หรือใช้ยาทาฝ้าอ่อน ๆ
  • ฝ้าลึก 
    เป็นฝ้าที่มีสีม่วงอมน้ำเงิน ที่เกิดในระดับชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งอยู่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า จึงรักษาได้ยากกว่าฝ้าแบบตื้น
  • ฝ้าแบบผสม 
    เป็นฝ้าที่เกิดทั้งในระดับชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้รวมกัน จึงมีลักษณะตรงกลางที่เป็นสีเข้มเพราะเกิดขึ้นในชั้นหนังแท้ และมีส่วนที่จางกว่าเนื่องจากอยู่ในหนังกำพร้า ซึ่งเป็นชนิดฝ้าที่พบได้มากที่สุด

ตอบคำถาม! ฝ้าผู้หญิงกับฝ้าผู้ชายต่างกันอย่างไร

ฝ้าผู้หญิง

ผู้หญิงมักมีโอกาสในการเกิดฝ้าได้มากกว่าผู้ชาย เนื่องจากมีปัจจัยและสิ่งเร้าที่ส่งผลต่อผิวหน้าได้มากกว่า ทั้งแสงแดด เซลล์ผิว ฮอร์โมน ที่แปรผันไปตามอารมณ์หรือช่วงวัย ซึ่งลักษณะของแผ่นฝ้าที่เกิดขึ้นจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล แต่สามารถพบฝ้าในผู้หญิงได้ทั่วใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นโหนกแก้ม หน้าผาก คาง จมูก หรือขอบปาก

ฝ้าผู้ชาย

ผู้ชายอาจมีการเกิดฝ้าลึก ฝ้าตื้น และฝ้าผสมได้เหมือนผู้หญิง แต่หากถามว่าฝ้าผู้หญิงกับฝ้าผู้ชายต่างกันอย่างไร คำตอบน่าจะเป็นเรื่องของตำแหน่งในการเกิดฝ้า เนื่องจากส่วนใหญ่ฝ้าในผู้ชายจะเกิดขึ้นบริเวณโหนกแก้ม เพราะเป็นจุดที่โดนแสงแดดบ่อย ซึ่งจะรักษาได้ง่ายกว่า เนื่องจากไม่ค่อยมีเรื่องของฮอร์โมนเอสโตรเจนมาเกี่ยวข้องเหมือนฝ้าของผู้หญิง

ฝ้าผู้หญิงกับฝ้าผู้ชายต่างกันอย่างไร ป้องกันอย่างไร

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดฝ้า

  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด 
    รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดกระ และหากโดนแสงแดดสะสมเป็นเวลานานก็อาจกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้
  • ทาผลิตภัณฑ์กันแดด 
    การทาครีมกันแดดถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่ป้องกันการเกิดฝ้าใหม่ แต่ไม่ควรเลือกเฉพาะค่า SPF เพียงอย่างเดียว เพราะจะกันได้แค่รังสี UVB ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า PA ที่ช่วยป้องกันรังสี UVA ด้วย ยิ่งค่า PA มีเครื่องหมายบวกมากเท่าใรยิ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการป้องกันที่มากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงเครื่องสำอาง และสกินแคร์ที่อาจก่อให้เกิดการแพ้
    สารเคมีที่ก่อให้เกิดการแพ้ เช่น สารกันบูด หรือสารปรอท ตะกั่ว อาจมีสารที่ช่วยกระตุ้นจนเกิดฝ้าได้ง่าย ซึ่งฝ้าที่เกิดจากสาเหตุนี้มักติดทนนานและรักษาได้ยาก

แต่หากป้องกันไม่ทัน ก็สามารถดูแลการเกิดฝ้าได้ด้วย Dual Yellow Laser แต่หากใครสงสัยว่า Dual Yellow Laser คืออะไร ออนนี่ขอบอกตรงนี้ว่า เลเซอร์ชนิดนี้คือเลเซอร์หน้าใสที่สามารถช่วยรักษาฝ้า กระ ลบรอยแดง รวมไปถึงติ่งเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ใครสนใจติดตามโปรโมชันเลเซอร์รอยสิวและเลเซอร์หน้าใสในราคาที่เอื้อมถึงได้เลยที่กังนัมคลินิก เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมเนรมิตทุกความสวยด้วยมาตรฐานที่ปลอดภัย สามารถปรึกษาและขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา หรือทักปรึกษาออนนี่ทาง LINE Official: @gangnamclinic (มี @ ด้วยนะคะ), Inbox Message, โทร. 090-665-3616, 098-269-7450 และ Email: gangnamclinicthailand@gmail.com ได้เลย